วันที่ 5 ต.ค.68 ที่สถานีโทรทัศน์พืชทีวี ถนนรามอินทรา 40 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน จัดงานครบรอบวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 60 ปี มีการจัดเลี้ยงฉลอง และกิจกรรมการเสวนาทางการเมือง เพื่อสะท้อนทิศทางการเมืองไทยในปัจจุบัน ภายในงานมีบุคคลสำคัญจากหลายแวดวงเข้าร่วมแถลงข่าวและเสวนา อาทิ นายพิชิต ไชยมงคล,นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม, นายใจเพชร กล้าชน รวมถึงนักวิชาการและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกหลายราย ทำให้งานดังกล่าวมีลักษณะเป็นทั้งงานรำลึกส่วนบุคคลและเวทีแสดงพลังทางการเมือง
นายจตุพร กล่าวปราศรัยบนเวทีว่า ตนมองว่าสถานการณ์ทางการเมืองไทยในปัจจุบันไม่ใช่เพียงการแข่งขันกันของสามฝ่ายเหมือนที่ถูกเปรียบเปรยว่าเป็น “การเมืองสามก๊ก” หากแต่แท้จริงแล้วมี “ฝ่ายที่สี่” ซึ่งก็คือประชาชน ที่จะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดอนาคตของชาติ
“ที่ผ่านมา ประชาชนยืนหยัดต่อสู้มาโดยตลอดเพียงแต่เราไม่ได้ลงแข่งในเชิงอำนาจเท่านั้นเองแต่เมื่อถึงเวลา ภาคประชาชนต่างหากที่จะเป็นผู้ตัดสินทิศทาง”
ในการปราศรัย นายจตุพร ยังได้กล่าวถึงปัญหา บันทึกความเข้าใจ (MOU) ไทย-กัมพูชา ปี 2543 และ 2544 โดยยืนยันว่ารัฐบาลควรยกเลิกทันทีโดยไม่ต้องรอประชามติ พร้อมชี้ว่าการปล่อยให้กัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย มากกว่า 600 ครั้ง เท่ากับเป็นการ “ตบหน้าประเทศไทย” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ถ้าไม่กล้าจะยกเลิกก็ต้องออกไป จะมานั่งเสียเวลาอยู่ทำไม บ้านเมืองต้องมีความเด็ดขาด” นายจตุพรกล่าว พร้อมทั้งกล่าวถึงมาตรการผลักดันชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่ในจังหวัดสระแก้วว่าหากผู้ว่าราชการจังหวัดไม่สามารถแก้ปัญหาได้ก็ควรถูกสอบถามความรับผิดชอบเช่นกัน
นายจตุพร ยงกล่าวถึงบระเด็นคาสิโนและการพนันออนไลน์ ว่ารัฐบาลต้องประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติและต้องห้ามเกิดขึ้น พร้อมทั้ง คัดค้านการขายที่ดินให้ต่างชาติเป็นเวลา 99 ปี รวมถึงกรณี “แลนด์บริดจ์” และการพัฒนาในภาคใต้ที่อาจกระทบต่ออธิปไตยและความมั่นคง
“ถ้าเรายอมในเรื่องนี้ ประเทศชาติจะเสียหายในระยะยาว” พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลสร้างความชัดเจนต่อร่างกฎหมายทางการเงิน รวมถึงการจัดการปัญหาวีซ่าฟรี ที่ทำให้ชาวต่างชาติเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์และก่ออาชญากรรมได้ง่ายขึ้น
#จตุพรพรหมพันธุ์ #หลอมรวมประชาชน #การเมืองไทย #MOUไทยกัมพูชา #ข่าวการเมือง #เสวนาการเมือง #สยามรัฐออนไลน์
